Take a Trip, and Drip it!
การทำ Blog คือ การนำเสนอไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนออกมาในรูปแบบของคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็น บทความ หรือภาพ โดยสร้างคอนเทนต์ที่ตัวเองชอบ ถนัด และ Proudly Present .. ซึ่งหากจะทำ Blog ให้ปัง และเป็นประโยชน์ต่อแฟนๆ ที่ติดตาม ต้องเลือกช่องทางให้เหมาะกับตัวเองด้วย
Trip & Drip เป็นช่องทางที่เปิดให้ผู้ที่รักในการเดินทาง หรือที่เราเรียกว่า Tripper ได้เข้ามาสร้าง Blog นำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบบทความ ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง แนวการท่องเที่ยวของตัวเอง แชร์ประสบการณ์ และเรื่องราวที่ประทับใจ เพื่อสร้าง Inspiration ให้กันและกัน รวมถึงเป็นข้อมูลในการเดินทางสำหรับ Tripper คนอื่นๆ
เมื่อพูดถึง “Drip” คอกาแฟคงคุ้นเคยกันดีกับ กาแฟดริป หรือ Drip Coffee ซึ่งเป็นวิธีการชงกาแฟโดยใช้น้ำร้อนเทผ่านผงกาแฟบดบนตัวกรอง ให้น้ำกาแฟเข้มข้นค่อยๆ หยดลงมาในแก้ว .. เช่นเดียวกับการเดินทางที่เราพบเจอเรื่องราวมากมาย และนำเรื่องราวเหล่านั้นมากกลั่นกรอง หยดลงมาใน Blog นำความทรงจำ และประสบการณ์ที่เข้มข้นมาแบ่งปันกัน เราจึงเรียกนักเดินทางที่มาสร้าง Blog และ Drip เรื่องราวบน Trip & Drip ว่า Dripper
อย่าเก็บเรื่องราวดีๆ ไว้คนเดียว มา Drip เรื่องราวของคุณให้โลกรู้ว่ามันเจ๋งขนาดไหน
ไม่ว่าจะเป็น Tripper มือใหม่ หรือ Blogger ในตำนาน ที่ทำ Blog/Vlog บน Facebook Instagram หรือ YouTube อยู่แล้ว ก็มา Drip เรื่องราวที่ Trip & Drip ได้ เพราะเราเชื่อว่า แต่ละคนล้วนมีมุมมอง และเรื่องราวเฉพาะของตัวเอง
ประเภทบทความ และตัวอย่าง
ในทริปหนึ่งทริป Dripper สามารถนำมาเขียนเรื่องราวได้ไม่รู้จบ ไม่ว่าจะเป็น Trip Review / Experience Review / Top 10 / Trip Tips
ยิ่งไปกว่านั้น หากใครมีเรื่องราวที่เป็น Inspiration ให้กับเพื่อนๆ Tripper หรือ อยากจะเขียนบล็อกอัพเดทเรื่องราวรอบโลก News & Update ก็สามารถ Creative ได้ตามต้องการเลย!
หมวดหมู่บทความจะแบ่งเป็น ทริปต่างประเทศ / ทริปในประเทศ / เรื่องราวน่ารู้
1. ทริปต่างประเทศ และทริปในประเทศ
ประเภทบทความ
1.1 Trip Review
รีวิวทริป แชร์แผนการเที่ยว การเดินทาง และประสบการณ์ในทริป เพื่อเป็นไอเดียให้กับเพื่อนๆ Tripper ตัวอย่างเช่น
- เที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน กินแหลก สไตล์ Local
- พาพ่อแม่เที่ยวออสเตรีย บูดาเปส เอง 7 วัน งบ 50,000
- กรุงเทพ เขาค้อ คนเดียวก็เที่ยวได้ 3 วัน 2 คืน
- How to Road Trip แคนาดา ในราคาประหยัด
ประเภทบทความ
1.2 Experience Review
รีวิวประสบการณ์ กิจกรรม แชร์เรื่องราว หรือสถานที่เจ๋งๆ ที่ไปเจอมา ตัวอย่างเช่น
- บรรยากาศชิบูย่า ท่ามกลางลมหนาวในช่วงปีใหม่
- นั่งรถไฟเวียนนา บูดาเปสข้ามคืน เป็นไงบ้างมาดูกัน!
- Mariahilfer Strasse เวียนนา ถนนช้อปที่สวยจนพูดไม่ออก
- จิบกาแฟชมวิวเขาค้อแบบ 360 องศาที่ร้าน ABC คาเฟ่
ประเภทบทความ
1.3 Top 10
รวม Top 10 หรือ Top 5 ของสิ่งต่างๆ อาจจะเป็นสิ่งที่ไปเจอมาเอง หรือเป็นข้อมูลที่หามาก็ได้เช่นกัน
- 5 สิ่งที่สาวๆ ต้องทำในชิบูย่า (Shibuya)
- 10 ร้านกาแฟในเวียนนา ต้นตำรับชาววังยุโรป
- 10 โรงแรมเขาค้อ วิวทะเลหมอก
ประเภทบทความ
1.4 Trip Tips
เทคนิคต่างๆ ที่ช่วยให้ทริปสนุกขึ้น สะดวกสบายยิ่งขึ้น
- 10 สิ่งที่ต้องมีติดกระเป๋าเมื่อไปยุโรป
- จองตั๋วเครื่องบินญี่ปุ่นยังไงให้ได้ราคาดีที่สุด
- แนะนำวิธีการซื้อตั๋วรถไฟในญี่ปุ่นก่อนไป
(ห้ามเน้นขายของนะจ๊ะ)
2. เรื่องราวน่ารู้
ประเภทบทความ
2.1 Inspiration
เรื่องราวของ Dripper ที่จะสร้างแรงบรรดาลใจ หรือเป็นต้นแบบให้กับ Tripper ท่านอื่นๆ ตัวอย่างเช่น
- ผู้หญิงเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว เตรียมตัวอย่างไร
- จุดเปลี่ยนจากการเลิกเที่ยวทัวร์ เริ่มเที่ยวเอง
- มนุษย์เงินเดือนเก็บเงินยังไงให้ไปเที่ยวได้ปีละครั้ง
ประเภทบทความ
2.2 News & Update
อัพเดทข่าวสาร เรื่องราว และสถานที่ต่างๆ รอบโลก ที่น่าสนใจ หรืออยากจะไป อยากแชร์ Wishlist ตัวอย่างเช่น
- ทำไมฟินแลนด์เป็นเมื่องที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว
- อัพเดทขั้นตอนการทำเชงเก้นวีซ่า 2020
- Norway เตรียมเปิดตัวสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ
(ไม่จำเป็นต้องนำประสบการณ์ตรงมาแชร์ อาจจะหาข้อมูลจากแหล่งข่าวอื่นๆ มาอ้างอิงก็ได้ ห้ามเน้นขายของนะจ๊ะ)
มือใหม่เริ่มเขียน Blog
หากคุณเป็น Dripper มือใหม่ ยังไม่เคยเขียนบทความ ไม่ต้องห่วง เพราะเมื่อเริ่มเขียนแล้วคุณจะติดใจ การเล่าเรื่องผ่าน Blog ไม่ใช่เรื่องยาก ลองทำตามขั้นตอนง่ายๆ นี้ได้เลย
1. ข้อมูล และหัวข้อ
ก่อนอื่น ลองคิดถึงเรื่องที่เราอยากจะเล่า อยากบอกอะไรกับผู้อ่าน
จากนั้นลองดูว่าบทความประเภทไหน หมวดหมู่ไหน เหมาะกับการเล่าเรื่อง เช่น Trip Review หรือ Experience Review หรือ Top 10 เป็นต้น
ทีนี้คุณจะเริ่มได้ไอเดียคร่าวๆ ว่าเรื่องราวจะออกมาเป็นอย่างไร
2. วางโครงเรื่อง
เริ่มวางโครงเรื่องคร่าวๆ ว่าเริ่มต้นอยากบอกอะไร กลางเรื่องจะพูดถึงอะไรบ้าง มีรูปอะไรบ้าง และจะจบอย่างไร สรุปอย่างไร
ไม่ต้องซีเรียส บทความไม่จำเป็นต้องยาวเกินไป 2-3 หน้า A4 กำลังดี
หากมีหลายเรื่องที่อยากจะพูด และแต่ละเรื่องเนื้อหาเยอะ ให้ลองแยกเป็น 2 หัวข้อบทความได้เลย
3. เริ่มเขียนได้เลย
เข้าสู่ระบบ จากนั้นไปที่หน้า เขียนบทความ
เลือกหมวดหมู่บทความ แล้วลงมือ Drip เรื่องราวของคุณได้เลย!
อย่ากลัวที่จะเขียน อย่ากลัวว่าจะออกมาไม่ดี เขียนให้จบ ลองอ่านซ้ำ ไม่ชอบก็ปรับ
ระหว่างเขียน อย่างลืม Save Draft บ่อยๆ นะ
หากใครต้องการความช่วยเหลือ คำแนะนำ หรือปรึกษาทีมงาน TripandDrip.com เกี่ยวกับการเขียนบทความ การทำ Blog ติดต่อเราได้เลย!
เทคนิคการเพิ่มผู้อ่าน
เมื่อเรื่องราวดีๆ ได้ถูก Drip ลง Blog แล้ว คุณค่ามากมายจะเกิดขึ้นหากมี Tripper ท่านอื่นๆ เข้ามาอ่าน ศึกษา เก็บเรื่องราวเป็นแรงบันดาลใจในทริปต่อไป.. เทคนิคพื้นฐานในการเข้าถึงผู้อ่านมี 2 วิธี
- ใส่ Keyword หลัก ที่เกี่ยวข้อง
- เข้าถึง Tripper ผ่าน Social Media
1. ใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้อง
การใส่ Keyword ในบทความจะช่วยเพิ่มโอกาสในการแสดงผล เมื่อมีคนค้นหาทั้งบน Google และ Trip & Drip
ในแต่ละบทความ ควรโฟกัสเพียง 1 Keyword หลัก.. ไม่ควรใส่หลายๆ คำที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน
4 ตำแหน่งที่ควรใส่ Keyword
- ใส่ในหัวข้อเรื่อง
- ใส่ในย่อหน้าแรกของเรื่อง
- ใส่ในหัวข้อย่อยในเรื่อง
- ใส่กระจายๆ อยู่ทั่วๆ เนื้อหา
ข้อ 1-3 นั้นจำถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น
แต่ข้อ 4 นั้นไม่ควรใส่เยอะเกิน แค่กะด้วยสายตาว่ากระจายๆ อยู่ตามส่วน บน กลาง ล่าง ของหน้าก็พอ เพราะหากใส่เยอะ บทความจะถูกจับว่าเป็น Spam ทันที!
ซึ่งการใส่ Keyword อาจจะใส่คำเสริมอื่นๆ ไปด้วยก็ได้เพื่อความหลากหลาย เช่น หาก Keyword หลักคือ “เที่ยวสิงคโปร์” เราสามารถมาใส่เป็น
- เที่ยวสิงคโปร์เอง
- งบเทียวสิงคโปร์
- แพลนเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน
เพื่อให้คนที่ค้นหาโดยใช้คำเหล่านี้มีโอกาสเจอบล็อกของเรา
เที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน งบ 7,000 กินแหลก สไตล์ Local
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore เที่ยวสิงคโปร์ magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquipex ea commodo consequat.
Duis aute irure เที่ยวสิงคโปร์เอง
Excepteur sint occaecat cupidatat non proident, sunt in culpa qui officia deserunt mollit anim id est laborum.
Sed ut perspiciatis unde omnis iste natus error sit voluptatem accusantium doloremque laudantium, totam rem aperiam, eaque ipsa quae ab illo inventore veritatis et quasi งบเที่ยวสิงคโปร์ architecto beatae vitae dicta sunt explicabo.
- Nemo enim ipsam voluptatem quia voluptas sit aspernatur aut odit aut fugit, sed quia consequuntur magni dolores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt.
- Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit amet.
Quis autem vel eum
Quis autem vel eum iure reprehenderit qui in ea voluptate velit esse quam แพลนเที่ยวสิงคโปร์ 4 วัน 3 คืน nihil molestiae consequatur, vel illum qui dolorem eum fugiat quo voluptas nulla pariatur. Nemo enim ipsam voluptatem quia voluptas sit aspernatur aut odit aut fugit.
2. เข้าถึง Tripper ผ่าน Social Media
เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้เรื่องราวที่ถูก Drip เข้าถึงกลุ่ม Tripper
- แชร์บน Facebook ของผู้เขียน
- แชร์บน Twitter ของผู้เขียน
- แชร์ใน Facebook Group ที่เกี่ยวข้อง
- แชร์ใน Line Group หรือ Line Square ที่เกี่ยวข้อง
เพียง Copy URL หรือ ลิงก์ ของหน้าบทความ และนำไปโพสต์ โดยอาจจะเขียนข้อความสั้นๆ เกี่ยวกับเนื้อเรื่อง เพื่อให้ดูน่าสนใจ
หรือใครมีช่องทางอื่นๆ ก็สามารถลุยได้เลย!
ข้อควรระวัง
การแชร์ในข้อ 3 และ 4 ต้องให้มั่นใจว่าเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ควรอ่านกติกาในกลุ่มนั้นๆ ก่อน ศึกษาว่าอะไรโพสต์ได้ อะไรโพสต์ไม่ได้ ไม่ควรแชร์ถี่ๆ ซึ่งอาจเป็นการรบกวนผู้อื่น ทำให้เกิดความลำคาญ มีโอกาสที่ผู้แชร์จะโดยจับว่าเป็น Spam ได้
- กลุ่ม “ไปคนเดียว+”
https://www.facebook.com/groups/paikondieow/?ref=br_rs - คนชอบเที่ยว | TripTH
https://www.facebook.com/groups/TripTH2/?ref=br_rs - คนชอบเที่ยว
https://www.facebook.com/groups/thaislovetravel/?ref=br_rs - ทริปเที่ยว วันหยุด ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์
https://www.facebook.com/groups/holidaytraveltrip/?ref=br_rs - แชร์ทริปเที่ยว
https://www.facebook.com/groups/821173251318300/ - กลุ่มคนหนีเที่ยว | Sneak out หนีเที่ยว
https://www.facebook.com/groups/sneakoutgroup/
ประเภท Keyword
Dripper คนไหนสนใจเรื่อง Keyword อย่างจริงจัง ลองมาทำความรู้จักกับ 2 ประเภท Keyword กัน แต่ Dripper คนไหนทนไม่ไหว อยากเริ่มเขียนใจจะขาด ก็ข้ามส่วนนี้แล้วไป เริ่ม Drip Your Story ได้เลย!
1. Keyword หางสั้น
Keyword หางสั้น หรือ Short-Tail Keyword
คือ Keyword สั้นๆ เช่น
- เที่ยวสิงคโปร์
- เที่ยวญี่ปุ่น
- เที่ยวทะเล
จะมีจำนวนการค้นหาเยอะ และมีการแข่งขันสูง โอกาสในการติดหน้า Google ก็อาจจะยาก
เนื่องจากการแข่งขันที่สูง และความหมายที่ “กว้างเกินไป” ของ Keyword
2. Keyword หางยาว
Keyword หางยาว หรือ Long-Tail Keyword
คือ Keyword ที่จะมีคำเสริมอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น
- เที่ยวสิงโปร์ 4 วัน 3 คืน
- เที่ยวญี่ปุ่น เดือนพฤศจิกายน
- เที่ยวทะเลใต้ งบน้อย
จะมีจำนวนการค้นหาไม่สูงเท่า Short-Tail Keyword และมีการแข่งขันน้อยลง รวมถึงมีความเจาะจงกับเนื้อหาบทความ โอกาสติดหน้า Google ก็สูงขึ้น
เราแนะนำให้ลองใช้ Keyword หางยาว หรือ Long-Tail Keyword เพื่อให้เรื่องราวนั้นๆ ติดหน้า Google ได้ง่ายขึ้น หรือหากจะใช้ Keyword หางสั้นเป็นคำหลัก ก็ควรมี Keyword หางยาวเสริมอยู่ในบทความด้วย ไม่ว่าจะในส่วนของ หัวข้อย่อย หรือตามย่อหน้าต่างๆ
แนะนำให้ใช้เครื่องมือชื่อ Uber Suggest ในการดูจำนวนการค้นหาของแต่ละ Keyword
ลองดูตัวอย่างจาก Uber Suggest ด้านล่าง จะเห็นได้ว่า Keyword หางยาว มีจำนวนการค้นหาเฉลี่ย 140 ครั้งต่อเดือน น้อยกว่า Keyword หางสั้น ซึ่งมีจำนวนการค้นหาต่อเดือนเฉลี่ย 12,100 ครั้งต่อเดือน แต่ถ้าพูดถึงโอกาสในการติดหน้าแรก Google นั้น Keyword ห้างยาว มีสูงกว่าพอสมควรเลย!
